คำกล่าวนายกรัฐมนตรี วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2560 เวลา 08.00 น.

คำกล่าวนายกรัฐมนตรี วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2560 เวลา 08.00 น.

วันที่นำเข้าข้อมูล 31 ต.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,052 view

          พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ

         บัดนี้ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสร็จสิ้นลงแล้วอย่างสมบูรณ์ และสมพระเกียรติ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชนชาวไทยโดยพร้อมเพรียง เพราะถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบสูงสุด และเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้สนองพระมหากรุณาธิคุณตราบถึงวาระสุดท้ายแห่งการถวายบังคมลา ตามคตินิยมโบราณที่ว่า “ขอร่วมกันส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย”

          รัฐบาลและคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานแนวทางปฏิบัติและคำแนะนำอันทรงคุณค่า และทรงวินิจฉัยปัญหาในทางปฏิบัติ จนขจัดคลี่คลายอุปสรรค สามารถดำเนินการต่อไปได้ในหลายเรื่องด้วยความเรียบร้อย ทรงห่วงใยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและประชาชน ทั้งในเรื่องอาหารการกิน ดินฟ้าอากาศ การสัญจร การเข้าถวายบังคมพระบรมศพ และการมีส่วนร่วมในพระราชพิธี ดังที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้สร้างพระเมรุมาศจำลองขึ้นในทุกจังหวัด และพระราชทานหีบไฟหลวงจากพระหัตถ์เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เชิญไปเป็นต้นเพลิงพระราชทาน ณ ทุกจังหวัดและในต่างประเทศ
          นอกจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณารับเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาของคณะกรรมการ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประชุมร่วมกับคณะกรรมการหลายครั้ง เสด็จไปทอดพระเนตรและทรงติดตามงานทุกด้านอย่างใกล้ชิดพระราชทานคำแนะนำต่าง ๆ มาโดยตลอดและด้วยพระบารมีของทั้งสองพระองค์งานพระราชพิธีจึงสำเร็จลงไปด้วยความเรียบร้อย สง่างามสมพระเกียรติ และยังเป็นประโยชน์ทางด้านการอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรม  อีกด้วยพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม หาที่สุดมิได้  
     
          อีกประการหนึ่ง รัฐบาลและคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน ขอขอบคุณสถาปนิก วิศวกร จิตรกร ปฏิมากร ช่างศิลปกรรมทุกแขนง ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ภาคเอกชน ช่างราชสำนัก ช่างสิบหมู่ ช่างพื้นบ้าน หรืออาสาสมัครที่ต่างได้บรรจงจัดสร้าง ตกแต่ง ประดับประดา หรือบูรณะซ่อมแซม ทั้งในส่วนของพระเมรุมาศ ราชรถ มหัคฆภัณฑ์ทั้งหลายที่ใช้ในการพระราชพิธีและภูมิทัศน์อย่างประณีตบรรจง นับว่าเป็นการชุมนุมงานฝีมือช่างชั้นครู สุดยอดแห่งศิลปกรรมอันวิจิตรอลังการทุกแขนง และเป็นที่ซาบซึ้งพระทัย และประทับใจของ  พระประมุข พระราชวงศ์ ประมุข ผู้นำรัฐบาลนานาประเทศที่มาร่วมงานพระราชพิธี ตลอดจนเป็นที่ตื่นตาตื่นใจได้รับการกล่าวถึงด้วยความชื่นชมไปทั่วโลก

         รัฐบาลขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการเตรียมงานการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศการต้อนรับ ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนจำนวนกว่าสิบล้านคนที่หลั่งไหลกันมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา รวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวก ดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยทั่วราชอาณาจักร โดยเฉพาะในอาณาบริเวณพระเมรุมาศ พระเมรุมาศจำลองและซุ้มวางดอกไม้จันทน์ทุกแห่ง จนการพระราชพิธีเสร็จสิ้นลง ทั้งขอขอบคุณบรรดาจิตอาสาเฉพาะกิจ จิตอาสาทั่วไป และอาสาสมัคร ที่ต่างเสียสละช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และเอื้อเฟื้อเกื้อกูลเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันอย่างดี ที่นับว่าสำคัญยิ่งคือ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกที่ร่วมมือร่วมใจกันจัดกิจกรรมในส่วนของตนและปฏิบัติตาม   คำเชิญชวนหรือร้องขอของทางราชการซึ่งจำเป็นต้องกำหนดขึ้นเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตลอดจนสื่อมวลชน นักกีฬา ศิลปิน ทั้งนี้เป็นเพราะเราทั้งหลายต่างมีศูนย์รวมจิตใจร่วมกัน มีหัวอกเดียวกัน จึงปรารถนาจะพูดและทำอย่างที่คิดเห็นตรงกัน คือการทำความดีอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องมีใครมาแนะนำในช่วงเวลาขณะนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชานุญาตให้จัดนิทรรศการพระเมรุมาศขึ้น ณ บริเวณสถานที่ที่เคยใช้เป็น  พระเมรุมาศท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 รวมเวลาประมาณ 1 เดือนก่อนจะมีการรื้อถอนต่อไป รัฐบาลจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน  ไปชมนิทรรศการดังกล่าวอันจะแสดงให้เห็นถึงองค์ความรู้เกี่ยวกับพระเมรุมาศและพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพตลอดจนพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ  ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทั้งจะได้เก็บบรรยากาศประวัติศาสตร์นี้ไว้ในความทรงจำเพื่อบอกกล่าวแก่ลูกหลานสืบไป

          พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน งานพระบรมศพเสร็จสิ้นลงแล้ว ดอกไม้จันทน์ที่เราวางเพื่อถวายราชสักการะได้เผามอดไหม้หมดแล้ว ดอกดาวเรืองนับล้าน ๆ ต้นทั่วประเทศอาจเริ่มร่วงโรย  แถบผ้าดำขาวแสดงความอาลัยได้ปลดออกแล้ว แต่พระบรมราโชวาท ศาสตร์พระราชา และคำสอนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริร่วมสี่พันโครงการ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ยังคงดำเนินการต่อไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นความทรงจำยิ่งใหญ่ที่เราทั้งหลายพึงสืบสานเจริญรอยพระยุคลบาท อันจะเป็นพระบรมราชานุสรณ์ สนองพระมหากรุณาธิคุณเป็นมงคลแก่ตนและเป็นพลังของแผ่นดินอย่างยั่งยืน

          ขอเดชะพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ปกเกล้าปกกระหม่อม อภิบาลบันดาลดล ให้ประเทศไทย และประชาชนชาวไทยผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์ มีพลังที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง สมดังพระบรมราชปณิธาน และมีความร่มเย็นเป็นสุข วัฒนาสถาพรตลอดไป

--------------------------------